ทัวร์ตะลุยเลย เมืองทะเลภู 4 วัน
ทัวร์
ระยะเวลา
4 วัน 3 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
26-29 พฤศจิกายน / 3-6, 9-12, 25-28 ธันวาคม 2563
Hilight

โกลบอล ฮอลิเดย์ ขอนำเสนอรายการท่องเที่ยวสุดพิเศษไม่เหมือนใคร ตะลุยเลย เมืองทะเลภู  สัมผัสบรรยากาศหน้าหนาวสุดฟิน สูดโอโซนให้เต็มปอดกับธรรมชาติที่งดงาม เพื่อการพักผ่อนสุดแสนพิเศษ นำท่านเยือนจังหวัดเลย ดินแดนแห่งทะเลภูเขา ทะเลหมอก ดอกไม้เมืองหนาว สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ร่วมทำกิจกรรมพื้นเมือง อิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส พร้อมการบริการและดูแลโดยทีมงานมืออาชีพ “เราจะทำให้วันพักผ่อนของท่านเป็นวันที่มีคุณค่าและมีความหมายมากที่สุด”

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    กรุงเทพ-ไร่ธารธรรม-ภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองเลย (L/D)
    • เช้า คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านกระเป๋าสัมภาระให้แก่ท่าน
      10.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ สู่สนามบินจังหวัดเลย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3542 DMK-LOE 10.30-11.45 (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
      11.45 น. เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน อำเภอเมือง จังหวัดเลย 
      12.30 น. แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ไร่ธารธรรม 
      บ่าย นำท่านชมแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตรของจังหวัดเลย จุดเด่นของ ไร่ธารธรรม คือการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชา พึ่งพาตนเองและยั่งยืน มีระบบการจัดการแปลง นำหลัก โคก หนอง นา โมเดลมาประยุกต์ใช้ มีร้านกาแฟเล็กๆ สไตล์ชาวไร่แบบประยุกต์ เมนูอาหารจากผลผลิตจากไร่ ไข่เป็ดอารมณ์ดี กิจกรรมเรียนรู้การทำพิซซ่าเตาดิน การทำเกษตรอินทรีย์ทฤษฎีใหม่ วิวทิวทัศน์รอบๆเต็มไปด้วยภูเขา ลำธาร อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมรอบๆ
      จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง “ภูป่าเปาะ” จุดชมวิวอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เที่ยวขึ้นชื่อของ จ.เลย หรือคุ้นๆหูกันว่า “ฟูจิเมืองเลย” ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน <87 กิโลเมตร / 2 ชั่วโมง> ด้วยสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น เหมาะแก่ผู้ที่ชื่นชอบการสูดอากาศสดชื่นเต็มปอด ภูป่าเปาะเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สามารถมอง เห็นทัศนียภาพภูเขาเมืองเลยได้เกือบหมด อาทิเช่น ภูหลวง ภูหอ ภูกระดึง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน เป็นต้น อีกทั้งยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสุดประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นทะเลหมอกไปรอบๆ ได้ชื่อว่า "พาโนราม่า 360 องศาเมืองเลย" ที่สำคัญของภูป่าเปาะ คือ เป็นจุดชมวิวภูหอ ภูเขายอดตัดที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิจึงเรียกกันว่า “ฟูจิเมืองเลย” นั่นเอง อิสระให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์และเก็บภาพบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินและภาพความประทับใจโดยรอบ
      ครั้นได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางต่อไปยังตัวเมืองเลย
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      ค่ำ อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ณ โรงแรมเลย พาเลซ หรือ เทียบเท่า

  • Day 2
    เมืองเลย-อุทยานแห่งชาติภูเรือ-วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง-องค์พระธาตุศรีสองรัก พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน-วัดป่าเนรมิตวิปัสสนา-ด่านซ้าย (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
      08.00 น. นำท่านเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย  <60 กิโลเมตร./ 1 ชั่วโมง>
      เพื่อสัมผัสบรรยากาศวามสดชื่นและพิชิตยอดภูเรือ (สูง 1,365 เมตร) จุดที่หนาวที่สุดของประเทศ (ในช่วงฤดูหนาว ท่านจะได้เห็นทะเลหมอกยามเช้า) ให้ท่านนมัสการพระพุทธรูปบนยอดเขา เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมบรรยากาศบนยอดภูเรือ ชมทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน 
      ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางต่อไปยัง วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามของขุนเขาที่ขึ้นสลับ ซับซ้อนกันไปมาในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบของตัวอาคารที่มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และงานประติมากรรมที่มีความละเอียดเป็นอย่างมาก โดยตัวโบสถ์วิหารถูกสร้างด้วยไม้สักที่ถูกนำมาแกะสลักไว้อย่างวิจิตรบรรจงทั้งหลัง ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นไปสักการะเป็นอย่างมาก สำหรับพระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได ก็ถูกแกะสลักมาจากหินหยกแม่น้ำโขงอีกด้วย
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      บ่าย เดินทางต่อไปยัง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งมีสมญานามว่า ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี <33 กิโลเมตร / 30 นาที>
      คณะเดินทางถึงอำเภอด่านซ้าย แวะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเลย คือ องค์พระธาตุศรีสองรัก (ห้ามใส่เสื้อสีแดง) สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2103-2106 โดยมีเหตุการณ์ครั้งสําคัญในประวัติศาสตร์ของ 2 อาณาจักรริมฝั่งโขง คือ การประกาศราชไมตรีและปักปันเขตแดนระหว่างกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต(ล้านช้าง) โดยสร้างพระธาตุศรีสองรักเป็นองค์สักขีพยานในการประกาศสัตยาบันร่วมหลั่งน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อกันในครั้งนั้น โดยก่อสร้างในรูปแบบเจดีย์ศิลปะล้านช้างที่ดูเรียบง่ายและอ่อนช้อยสง่างาม
      นำท่านแวะชม พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน เรียนรู้ประวัติประเพณีผีตาโขนอันเลื่องชื่อ (หนึ่งเดียวในโลก) 
      ต่อด้วยนำท่านชมวัดป่าสายปฏิบัติอันสงบสวยงามที่ วัดป่าเนรมิตวิปัสสนา วัดที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง และมีพระอุโบสถขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน มีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงามเป็นที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้ายไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม
      นำท่านแวะชิมรสชาติช็อกโกแลตที่อร่อยขึ้นชื่อร้านดังของด่านซ้าย Cacoa Forever อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินไปกับความอร่อยของรสชาติช็อกโกแลตเข้มข้นหรือขนมเค้กแบบโฮมเมดก็ได้
      คณะมุ่งตรงเข้าสู่โรงแรมที่พัก ภูนาคำ รีสอร์ท 
      อิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศสดชื่นที่ล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ขุนเขารอบด้าน ที่นี่เป็นโรงแรมสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การันตีด้วยรางวัลโรงแรมสีเขียวมากมาย
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น  
      เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย ณ ภูนาคำ รีสอร์ท

  • Day 3
    ด่านซ้าย-ภูลมโล-บ้านขิงนิยม (B/L/D)
    • 06.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      07.30 น. เจาะลึกอำเภอด่านซ้าย เริ่มต้นนำท่านไป "ภูลมโล" ตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลกกสะทอน  อำเภอด่านซ้าย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่ เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,542 เมตร ทำให้ภูลมโลที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูง สภาพแวดล้อมเป็นเนินเขา โปร่ง โล่งและมีลมพัดโกรกตลอดเวลา ภาษาถิ่นที่นี่เรียกว่า ลมโล จึงเป็นที่มาของชื่อภูลมโล  สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคือ ต้นนางพญาเสือโคร่งที่มีกว่า 200,000 ต้น ด้วยอากาศที่หนาว
      เย็นของพื้นที่ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกบานสะพรั่งเป็นหุบเขาสีชมพูในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมของทุกปี นอกจากนี้ภูลมโลยังมีจุดชมวิวสวยงามหลายแห่งอาทิเช่น ผาดรรชนี ยอดเขาที่สูงที่สุดของภูลมโล ซึ่งมีความสูง1,664 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ความแตกต่างที่ท่านจะได้รับจากการมาเที่ยวภูลมโลในช่วง Green Season นี้คือความเชียวชอุ่มของทุ่งหญ้าและต้นไม้เขียวขจีท่ามกลางสายหมอกหยอกล้อขุนเขาในยามเช้า สูดโอโซนในบรรยากาศที่สดชื่นแบบเต็มปอด เก็บภาพวิวทิวเขา 360 องศาแบบปลอดคนและปลอดภัย
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ บ้านขิงรสนิยม
      บ่าย นำท่านเรียนรู้วิธีการทำขิงผง ณ ศูนย์เรียนรู้ขิง บ้านขิงรสนิยม ที่นี่คนเค้าพูดกันแต่เรื่องขิงๆ และวันนี้เป็นอีกวันที่จะพาคุณมาสัมผัสประสบการณ์แบบ Go Eco - Go Loei ! มาถึงที่นี่ ก็ต้องไม่พลาดที่ จะมารู้จักกับเรื่องของ“ขิง”ตามวิถีคนปลูกขิงกัน ขอต้อนรับคุณด้วยน้ำ “ชาขิง” อุ่นๆ สักแก้วหนึ่ง กอปรด้วยสภาพพื้นที่และสภาพอากาศนั้นเอื้อต่อการเป็นแหล่งปลูกขิง จึงพบเห็นไร่ขิงกระจายอยู่ทั่วๆไป พาคุณเข้าไปดูไร่ขิง ไปดูให้เห็นถึงต้นของมันเลยทีเดียว ก็อย่างที่รู้กันว่าขิงเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย มีสรรพคุณช่วยเรื่องของท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดไขมันคอเลสเตอรอล ชะลอความแก่และการเกิดริ้วรอย ฯลฯ ชุมชนที่นี่จึงนำขิงมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ดีๆหลายอย่าง ร่วมกันมาลงมือทำกิจกรรม “ขิงผง” ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมดูเหมือนจะทำง่ายแต่ไม่ธรรมดา และเดิมชมวิถีเกษตรอินทรีย์อย่างผ่อนคลายพร้อมเกล็ดความรู้  พาปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งเสริมบารมีและเพิ่มพลังชีวิตให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ 
      จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองด่านซ้าย บนเส้นทางจิตวิญญาณด่านซ้าย เส้นทางผ่านชม บ้านเจ้าพ่อกวน ผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งเมืองด่านซ้าย(ฝ่ายชาย) 
      เดินทางกลับสู่โรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น 
      เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย ณ ภูนาคำ รีสอร์ท

  • Day 4
    ด่านซ้าย-ภูอีเลิ- พัดน้ำ-ภูคกงิ้วสกายวอล์ก-วัดศรีคุณเมือง-กิจกรรมผาสาด- เชียงคาน-กรุงเทพฯ (B/L/D)
    • เช้าตรู่ นำท่านขึ้นชม ภูอีเลิศ ที่เที่ยวใหม่ในอำเภอด่านซ้าย รับตะวันวันใหม่ กับทะเลหมอกสองแผ่นดินไทย-ลาว สุดเลิศสมชื่อ ธรรมชาติป่ายังคงสมบูรณ์ นำท่านนั่งรถอีแต๊ก ขึ้นภูอีเลิศ ภูที่ได้ขนานนามถึงความรักอันมั่นคงของหญิงลาวชื่อว่า “อีเลิศ” ที่มีชายหนุ่มชื่อ “บักเกิด” ผู้ซึ่งเป็นยอดรัก หากแต่ว่าเธอผู้ยังยึดมั่นในรัก ได้นัดหมายมาพบและรอคอย แต่แล้วชายหนุ่มมารออีกหน้าผา เธอคิดว่าบักเกิดไม่มา เธอจึงพิสูจน์ความรักด้วยการกระโดดหน้าผา
      เหนือแม่น้ำเหือง สิ้นใจลง เมื่อบักเกิดเห็นเธอสิ้นใจ เขาจึงกระโดดหน้าผาตายตามอีเลิศไป จนกลายเป็นผาคู่ ชื่อ “ผาอีเลิศ” และ “ผาบักเกิด” ที่ไม่มีทางบรรจบพบเจอกันได้
      รับประทานอาหารเช้าบนวิวเขาสองแผ่นดิน รับอรุณวันใหม่ (ในรูปแบบ Green Picnic) 
       แวะชม พัดน้ำ ณ บ้านนาหมูม่น เครื่องจักรไม้ที่ใช้ผันน้ำจากลำน้ำหมันซึ่งเป็นสายน้ำหลักที่ไหลผ่านชุมชนโดยไม่ใช้น้ำมันเข้าสู่พื้นที่เกษตร เป็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่นที่ทำมาหากินอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ในส่วนของบ้านนาหมูม่นนั้น ถือเป็นบริเวณที่เหลือพัดทดน้ำมากที่สุดในอำเภอด่านซ้าย แต่ก็เหลือเพียง 11 ตัว จากเดิมที่มีมากกว่า 50 ตัวตลอดแนวลำน้ำหมันที่ไหลผ่านหมู่บ้าน 4-5 กิโลเมตร
      สายได้เวลาพอสมควรนำท่านกลับมาพักผ่อนที่รีสอร์ท และรับประทานอาหารเช้า
      หลังจากนั้น เช็คเอ้าท์ ที่โรงแรม
      09.00 น. เดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ที่เป็นแลนด์มาร์คของเชียงคาน ณ ภูคกงิ้วสกายวอล์ก <102กิโลเมตร/ 2ชั่วโมง> ตั้งอยู่หน้าพระใหญ่ บนภูคกงิ้ว สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหือง สปป.ลาว ตรงบริเวณแม่น้ำเหืองไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ชายแดนภาคอีสานของไทยเป็นจุดแรกมีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและประเทศลาว ทางเดินทำด้วยกระจกยาวกว่า 100 เมตร กว้าง 2 เมตร สูงจากแม่น้ำโขง 80 เมตร หรือเท่ากับตึก 30 ชั้น เป็นจุดที่เสียวที่สุดให้กับนักท่องเที่ยวที่ชอบความตื่นเต้น 
      สำหรับโครงการก่อสร้างสกายวอล์กแห่งนี้ได้มีการออกแบบเป็นพิเศษ มีความมั่นคง ปลอดภัย แน่นหนา โดยมีเป้าหมายเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสกายวอล์กและปรับปรุงทัศนียภาพภูมิทัศน์โดยรอบพื้นที่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เพื่อการท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดเลย ซึ่งเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการแล้ว 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย จากนั้นเดินทางต่อไปยังเชียงคาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
      นำคณะไปชมวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงคาน ณ วัดศรีคุณเมือง ภายในวัดมีพระพุทธ รูปประธานที่เก่าแก่เป็นที่เลื่อมใสเคารพศรัทธาของชาวบ้านอย่างมากคือ พระพุทธรูปปูนปั้นนาคปรกปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดที่มาขอพรจากพระประธานในพระอุโบสถวัดศรีคุณเมือง มักจะประสบความสำเร็จและสมหวังกันทุกคน
      จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวเล่นบนถนนเชียงคาน สัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำโขงเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ 
      นำท่านไปเรียนรู้วิธีการทำมะพร้าวแก้ว ณ ร้านเคียงเลย ของฝากขึ้นชื่อของชาวเชียงคานที่ แก่งคุดคู้ แก่งหินใหญ่กลางแม่น้ำโขง รวมถึงเดินเล่น ชม ชิม ช๊อป ของอร่อยริมฝั่งโขง
      ได้เวลาอันสมควรเดินทางไปยังสนามบินเลยเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ
      16.00 น. เดินทางถึงสนามบินจังหวัดเลย   
      18.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3549 1800-1855 (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
      18.55 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมกับความประทับใจ

Top